Blog Details

> Blog > เรื่องน่ารู้ > เส้นทางการเป็น CPA ของคุณอภิวัฒน์ จำปาแพง

เส้นทางการเป็น CPA ของคุณอภิวัฒน์ จำปาแพง

เส้นทางการเป็น CPA ของคุณอภิวัฒน์ จำปาแพง

เส้นทางการเป็น CPA ของคุณอภิวัฒน์ จำปาแพง

บันทึกความทรงจำ  :  ในที่สุด…..ก็ได้เป็น CPA

ในความคิดของผม CPA ถือเป็นอีกหนึ่งใบประกอบวิชาชีพที่มีเกียรติของเด็กบัญชี  เป็นเหมือนใบเบิกทางที่เพิ่มโอกาสในการก้าวหน้าของสายงานบัญชีและการสอบบัญชี  ถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของเส้นทางอาชีพบัญชี สำหรับผม CPA ไม่ได้เป็นเพียงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเท่านั้น แต่คือ การลงทุนในความรู้และทักษะที่จะช่วยยกระดับสถานะทางวิชาชีพ ทำให้ที่เป็นที่ยอมรับและได้รับความน่าเชื่อถือในสายงานบัญชีอย่างแท้จริง

CPA คือ อะไร

CPA คือ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (Certified Public Accountant) ทำหน้าที่แสดงความเห็นต่องบการเงินของกิจการว่าถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไปหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้งบการเงินและผู้มีส่วนได้เสีย ว่าข้อมูลทางการเงินที่นำเสนอ สามารถใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยบุคคลที่จะได้รับอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชี ต้องผ่านการฝึกหัดงานสอบบัญชีเป็นเวลาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 ปี และมีเวลาฝึกหัดงานรวมกันไม่น้อยกว่า 3,000 ชั่วโมง และต้องสอบผ่านทั้งหมด 6 วิชา  

ขอเล่าจุดเริ่มต้นประสบการณ์

ผมเรียนจบปริญญาตรีบัญชี  พื้นฐานปานกลาง โดยไม่ได้เป็นคนที่เรียนเก่งมาก ไม่ได้จบเกียรตินิยม หลังจากฝึกงานด้านผู้ทำบัญชีแล้วรู้สึกว่ายังไม่ชอบสายนี้ จึงลองเปลี่ยนมาทำงานสอบบัญชี จึงเริ่มเก็บชั่วโมงฝึกหัดงาน พร้อมกับเริ่มต้นลงสอบ CPA 

ครั้งแรกเลือกลงสอบเพียงวิชาเดียว คือ วิชาการบัญชี 1 และลงติวกับสถาบันแห่งหนึ่ง ตอนนั้นรู้สึกว่าวิชานี้ยากมาก สอบอยู่หลายครั้งก็ยังไม่ผ่านสักที จึงลองเปลี่ยนมาสอบ วิชากฎหมาย 1 ควบคู่กัน ซึ่งใช้เวลาสอบเพียง 2 ครั้งก็สามารถสอบผ่านได้ จึงเป็น “วิชาแรก” ที่สอบผ่านได้ในปี 2561 ตอนนั้นรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น

ในปี 2562 ผมลงสอบวิชากฎหมาย 2 ควบคู่ วิชาการบัญชี 1 และสามารถสอบผ่านทั้งสองวิชาได้ในปีเดียวกัน รวมถึงสอบผ่าน วิชาสอบบัญชี 1 ในปีถัดมา โดยผลสอบแต่ละวิชาที่ผ่านนั้นจะมี อายุ 4 ปี นับจากวันที่สอบผ่าน ซึ่งจะต้องสอบให้ผ่านทั้งหมด 6 วิชา แต่ในช่วงเวลานั้น อายุงานและความรับผิดชอบในหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความประมาทและติดเล่นของตัวเอง  ทำให้วิชาที่เคยสอบผ่านไปก่อนหน้าทั้งสามวิชา หมดอายุเหมือนโดมิโน่ล้มทั้งแถว ต้องมาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดในปี 2566

ครั้งนั้น ผมจึงกลับมาทบทวนตัวเองใหม่ ปรับความคิด และวางแผนการอ่านหนังสืออย่างจริงจัง เริ่มจากดูขอบเขตเนื้อหาที่ออกสอบทั้งหมด อ่านครบหนึ่งรอบ เขียนสรุปย่อ ทำความเข้าใจโดยตั้งใจอ่านทุกวันอย่างต่อเนื่องประมาณหนึ่งเดือนครึ่งก่อนสอบ นับจากวันที่ประกาศผลสอบ โดยในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ จะอ่านเต็มวันเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหา ส่วนวันจันทร์ – ศุกร์ หลังเลิกงานจะฝึกทำแบบฝึกหัด เป็นการรีเช็คความเข้าใจของตัวเอง แม้จะเลิกงานดึกแค่ไหน ก็ยังตั้งเป้าหมายไว้ว่า วันนี้ต้องอ่านให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง โดยเริ่มอ่านทุกคืนหลังห้าทุ่มเป็นต้นไป ระหว่างทางมีท้อ มีเหนื่อย แต่ไม่ยอมแพ้ พยายามคิดบวกอยู่เสมอ บอกตัวเองทุกครั้งว่า “การอ่านทุกครั้งคือการทบทวน”  และเมื่อถึงวันที่ประกาศผลสอบ หากไม่ผ่าน ก็ให้ตัวเองเสียใจได้แค่วันเดียว วันถัดไปต้องลุกขึ้นสู้ใหม่ กลับไปขอดูกระดาษคำตอบ ว่าสิ่งที่เราตอบ มีจุดไหนที่เราพลาด ตรงไหนที่เขียนยังไม่ตรงจุด แล้วนำมาปรับปรุง

สุดท้ายความพยายามทั้งหมดก็ไม่สูญเปล่า ผมสอบผ่านครบทุกวิชาแล้ว  วันนี้รู้สึกดีใจมาก และอยากบอกกับทุกคนว่า ทุกครั้งที่ล้มเหลว คือ “บทเรียน” ที่ทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น  อย่าเปรียบเทียบเส้นทางของตัวเองกับใคร เพราะจังหวะชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ถ้าวันไหนรู้สึกเหนื่อย ให้พักได้ แต่ห้ามหยุดเดิน ทุกคนก็ทำได้แน่นอน ขอแค่อย่าหยุดพยายามครับ

ผู้เขียน  :   คุณอภิวัฒน์ จำปาแพง                   

บริษัท สอบบัญชีธรรมนิติ จำกัด